วันนี้นำบทสัมภาษณ์ของ Hayley Williams กับ Interview Magazine มาฝากครับ ซึ่งบทสัมภาษณ์นี้เป็นคำถามส่วนตัวเสียส่วนใหญ่ เกี่ยวกับวิธีคิด การแต่งเพลง สิ่งต่างๆที่เกิดขึ้นในโปรเซสการเขียนเพลง ไม่ว่าจะของอัลบั้ม After Laughter หรือ Petals for Armor รวมถึงสถานการณ์ปัจจุบันในการโปรโมตอัลบั้ม
Ben Barna: นักดนตรีหลายๆคนพูดถึงเวลาจบทัวร์ พูดถึงความลำบากที่จะปรับตัวให้เข้ากับวันปกติที่ไม่ได้แสดงแล้ว ตอนนี้ที่คุณเก็บตัวอยู่ ทุกๆอย่างเป็นวันปกติ คุณปรับตัวยังไง
Hayley Williams: ฉันรู้สึกหดหู่มากหลังจากที่จบทัวร์ หลังจากกลับมาอยู่ที่บ้าน เพราะว่าฉันชอบที่จะออกเดินทาง เล่นดนตรีให้ผู้คนฟัง ไม่มีอะไรให้ความสุขฉันได้มากกว่านั้นแล้ว แต่ว่าร่างกายของฉันอยู่ในแวดวงนี้มานานมาก นานมากตั้งแต่ฉันอายุ 16 บางวันฉันก็เกลียดมันมากเหมือนกัน แต่บางวันฉันก็ต้องขอบคุณสิ่งเหล่านี้
Barna: สถานการณ์ปัจจุบันไม่เอื้ออำนวยให้คนมารวมตัวกัน คุณคิดว่าการกลับมาแสดงสดจะเป็นปัญหาในอนาคตมั้ย
Hayley: โอ พระเจ้า แน่นอนเลยล่ะ มันทำให้ฉันเศร้ามาก เพราะว่าฉันชอบไปคลับ ไปดูวงดนตรีสด ฉันชอบบรรยากาศชื้นๆในคลับ เหงื่อของผู้คนในพื้นที่โชว์เล็กๆ
ฉันมีเพื่อนนักดนตรีที่ต้องเลื่อนการแสดงไปจนถึงสิ้นปีนี้ และก็ต้องเลื่อนไปอีก มันทำให้กังวลมาก และเป็นเรื่องที่น่ากลัวที่จะพูดถึง เพราะว่าเราไม่รู้จริงๆว่า คลื่นพายุลูกนี้จะมาจะไปตอนไหน ฉันไม่สามารถคิดเรื่องนี้ได้นานๆ ถ้ามีใครสักคนนึงพูดว่า “คุณจะไม่มีโอกาส ได้ออกทัวร์อีกแล้ว ต่อไปนี้การแสดงทางดนตรี จะต้องทำจากที่บ้าน และพูดคุยกับผู้คนผ่านกล้อง” ฉันคงใจสลายเลยนะ แต่ถ้ามาบอกฉันหลังจากที่เราเริ่ม Paramore ทัวร์ไปแล้วสักสามเดือน ฉันก็คงว่า “เอาเลยพวก ดีเลยที่ได้อยู่แต่ที่บ้าน อยู่กับหมา แล้วปล่อยอัลบั้มจากที่บ้าน”
Barna: เพราะว่าตอนนี้คุณอยู่แต่ในบ้าน คุณรู้สึกกดดันมั้ยที่ต้องเขียนเพลง หรือว่าคุณแค่ปล่อยตัวเองตามสบาย หลังจากที่ปล่อยอัลบั้ม
Hayley: น่าจะแบบหลังมากกว่า ฉันเขียนอยู่ตลอดเวลา แต่ว่ามันไม่ใช่สิ่งที่เอามาทำอะไรได้ การเขียนเป็นเรื่องปกติของร่างกายฉันไปแล้ว แล้วก็การเล่นกีตาร์ตอนที่ฉันเศร้า หรือตอนกังวลเช่นกัน ความคิดริเริ่มมันเกิดขึ้นตลอด แต่ฉันไม่รู้สึกกดดันกับมันเลย ฉัน ไม่ได้เก็บมาคิดเลย ว่าคนอื่นต้องการให้ฉันเป็นยังไงในฐานะนักดนตรี เพราะว่าฉันเคยเป็นแบบนั้นมานานมาก ถือเป็นเรื่องที่ดีนะ แต่ว่าการเขียนเหล่านี้ การทำงานเพลงพวกนี้มันต้องมีวินัย แต่ก็ต้องจำด้วยว่าฉันต้องการครอบครัว ต้องการการพักผ่อน ฉันมีเรื่องอื่นๆที่อาจจะแย่ต้องเผชิญอีกเยอะ แค่อัลบั้มออกมาดี ไม่ได้แปลว่าชีวิตฉันมันจะดีไปหมด
Barna: ปกติคุณสัมภาษณ์พร้อมๆกับเพื่อนร่วมวงคนอื่นๆ ตอนนี้เป็นยังไงบ้างที่กลายเป็นคนเดียวที่ออกมาขายเพลง
Hayley: จะให้พูดอีกแบบนึงก็คือ ฉันแม่งพูดมากชิบหายเลยแหละ พวกหนุ่มๆมักจะหัวเราะใส่ฉัน เพราะว่าก่อนอังกอร์ เราจะดื่มเตกีล่ากันคนละช็อต มันกลายเป็นธรรมเนียมที่เราทำกัน เพราะว่าพอฉันดื่มไปช็อตเดียว ฉันจะยิ่งพูดเยอะมากกว่าเดิม แต่ว่าไอ้โปรเซสทั้งหมดทั้งมวลนี้ก็คือฉันที่พูดมากสุดๆ พล่ามไม่หยุด
ฉันค่อนข้างจะเปิดเผยทุกวันนี้ แล้วฉันก็รู้สึกโอเคแบบนั้น ถ้าเป็นงานของ Paramore คุณพุดถูกเผงเลยแหละ ไม่ใช่เพราะว่าฉันรู้สึกละอายหรือว่าพวกผู้ชายไม่อยากให้ฉันพูด แต่มันไม่ได้มีแค่ฉัน ฉันอยากให้สป็อตไลต์สาดไปที่พวกเขา ฉันอยากให้เป็นแบบนั้นมากกว่า ตอนนี้ ฉันพยาพยามให้ตัวเองพูดน้อยลง และฉันกำลังพูดเยอะเกินไป แต่ฉันไม่เคยเสียใจในสิ่งที่พูดนะ มันไม่มีประโยชน์อะไร ก็เราพูดไปแล้ว
Barna: มันมีโมเมนต์ไหนมั้ยที่คุณรู้ทันทีเลยว่า นี่แหละ ถึงเวลาที่ต้องทิ้งอัลบั้มนี้ และเดินหน้าต่อ แล้วการทำแบบนั้นมันดูคลุมเครือมั้ย เพราะว่ามันไม่มีจุดตายตัว ไม่มีตรงไหนที่บอกเราว่า เราควรจะหยุดตรงนี้
Hayley: มันเป็นความสบายใจอย่างนีงนะในการเขียนเพลงพวกนี้ มันมีความเจ็บปวดด้วยเช่นกัน ความรู้สึกทั้งหมดที่ผ่านไป ฉันต้องเดินหน้าต่อไปเพื่อพบเจอเรื่องอื่นๆ ฉันคิดว่าปกติมันคงใช้เวลาหลายหนึ่งสัปดาห์ หรืออาจจะมากกว่านั้น หลังจากที่อัลบั้มปล่อยออกมา เพราะว่าเราทำงานกันหนักมาก โดยเฉพาะในสัปดาห์ที่จะปล่อย เราต้องออกสัมภาษณ์เยอะเป็นพิเศษ โปรโมตเยอะเป้นพิเศษ แต่พอช่วงนั้นจบไป มันก็เป็นโมเมนต์ที่หนักหนาที่อัลบั้มจริงๆปล่อยออกมา ฉันเขียนลงอินสตาแกรมไปแล้ว หรือแม้กระทั่งในอีเมล์ที่ส่งให้แฟนๆว่า “ตอนนี้อัลบั้มนี้เป็นของพวกคุณแล้ว ดูแลมันด้วย มันเป็นเรื่องราวที่มีผลกับชีวิตของฉันมากๆ แต่มันก็ได้เวลาเดินหน้าต่อเหมือนกัน” จริงๆที่ฉันบอกนั้น แต่ฉันก็ต้องใช้เวลาเหมือนกันในการทำมัน ปล่อยมันลง
Barna: คุณได้คุยกับทางค่ายมั้ย ว่าจะขอเลื่อนวันปล่อยอัลบั้ม
Hayley: เราก็ได้คุยกันนะ แน่นอน แต่มันประหลาดที่ ฉันทำงานเพลงมาตั้งแต่อายุสิบห้า ไม่ก็สิบหก และพวกเขารู้ว่า Paramore หัวรั้น ไม่เหมือนศิลปินคนอื่นๆในค่าย ไม่ได้ให้ในสิ่งที่ศิลปินคนอื่นในค่ายให้เขา และนั่นมันทำให้หัวเสียมาก หลายครั้ง แต่ก็เป็นโอกาสเหมือนกันที่พวกเขาต้องเคารพการตัดสินใจเรา พอมีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้น ฉันไม่เคยลืมเลย ทั้งทีมโทรหาฉัน ถามฉันว่าจะเอายังไงดี ฉันรู้สึกซึ้งใจนะที่มาถาม แล้วก็รู้สึกกดดันด้วย เพราะว่าคนพวกนี้ เค้ารู้ว่าหนึ่งสองสามต้องทำอะไร พวกเขาแนะนำอะไรมาหลายอย่าง แต่ว่าฉันก็แบบ “เดี๋ยวก่อน คอนเทนต์ที่ฉันทำกับ Lindsey Byrnes (ครีเอทีฟไดเรกเตอร์) ฉันภูมิใจมากที่จะได้ปล่อยมัน และเรามีเพลงที่เราแม่งโคตรเชื่อในตัวเพลงเลย” ฉันเลยบอกว่า “ไม่ว่าจะยังไง ท้ายที่สุดแล้ว มันก็เป็นเรื่องราวที่เราอยากจะแชร์ให้ทุกๆคน ฉันเสียใจเหมือนกันนะ ว่าตอนนี้โลกมันเป็นแบบนี้ โลกกำลังมอดไหม้ แต่ถ้าเพลงมันสามารถมอบความสุขได้ ถึงแม้จะแค่นิดเดียวก็เถอะ ฉันก็อยากจะทำเลย ฉันคิดว่ามันจะช่วยฉันได้ เหมือนกัน”
Barna: แล้วคุณรู้สึกยังไงที่ได้รู้ว่าจะได้ออกทัวร์กับอัลบั้มนี้ที่ไหนสักแห่งที่ไกลมาก ทั้งๆที่คุณอาจจะมูฟออนไปแล้ว
Hayley: ฉันไม่เคยมีประสบการณ์แบบนั้นเลย กับ Paramore เราทำอัลบั้มเสร็จ อีกสี่หรือห้าเดือน อัลบั้มก็จะถูกปล่อย ถึงแม้แบบนั้นก็ยังรู้สึกแย่ แต่ตอนนี้มันคนละแบบกันเลย ฉันจะต้องมาทำไลฟ์สด แต่ว่าจริงๆแล้ว ฉันไม่ชอบทำไลฟ์สตรีมที่มันเหมือนว่าฉันแสดงมาจากในห้องน้ำ จุดประสงค์ของการออกทัวร์คือการเอารายละเอียดทั้งหมดทั้งมวลมารวมกันให้คนดู ให้คนได้สัมผ้สแบบสามมิติ ให้มันทะลุออกมา ให้มันมีชีวิต ตอนที่ฉันดู Thom Yorke ที่ Atlanta ปีที่แล้ว ฉันมองขึ้นไป และจอมันใหญ่มาก มันมีภาพสวยงามมากมาย มีสี มีกราฟิค สาดไปในระหว่างที่เพลงเล่นสด แต่ฉันเริ่มรู้สึกคิดถึงศิลปะเหล่านั้น และความตระการตาของเพลงที่กลายมาเป็นชีวิต ดังนั้นฉันก็พยายามที่จะทำให้รู้สึกแบบนั้น เพราะฉันไม่อยากรอจน 2021 หรือนานกว่านั้นที่จะได้แสดงเพลงออกมาให้สวยงาม
Barna: เป็นยังไงบ้างที่ได้เห็นป้ายโฆษณาของตัวเองที่ Time Square โดยปราศจากผู้คน
Hayley: มันเป็นสังคมที่น่ากลัวมาก ฉันชอบอะไรที่มันหักมุม ฉันว่ามันเป็นส่วนที่ประหลาด ที่ได้เห็นตัวเองบนนั้น โดยไม่มี Zac และ Taylor ข้างๆ ฉันแแอบหวังว่า สมมติว่าโลกจบลง มันจะมีหน้าของฉันติดอยู่ในยุคล่มสลาย อยู่บนตึกที่เขียนว่า “Petals for Armor” ฉันชอบอะไรแปลกแบบนั้น แต่ก็ไม่ชอบหรอกที่ New York ถูกชัตดาวน์
Barna: มันทำให้คุณมีอารมณ์มากขึ้นมั้ย ที่จะได้รู้ว่าผู้คน จะรู้จักคุณครั้งแรกในนาม Hayley Williams โดยไม่มีความรู้เลยว่า ผู้หญิงคนนี้เป็นร้องนำของวงที่ประสบความสำเร็จ และเป็นวงที่คุณทำมาตลอดเกือบทั้งชีวิต
Hayley: แน่นอนนะ จริงๆแล้ว Taylor กับฉันคุยกันบ่อยเรื่องนี้ เราทำงานด้วยกัน เรามักจะพูดว่า “นี่มันปละหลาด ฉันอยากจะทำมันมาตลอด แต่ก็ไม่คิดว่าตัวเองจะทำได้” ตอนที่เรากำลังเขียนเพลง “Sugar on the Rim” ฉันเล่นซินท์ และเขาก็กำลังฟัง sample และเราก็มองกันแล้วก็ถามว่า “นี่มันคืออะไรเนี่ย เรากำลังทำเพลงอะไร นี่มันไม่ใช่แบบที่เราทำ” ฉันชอบมากนะที่จะได้รู้ว่า คนที่ไม่ชอบ Paramore พอหยิบเพลงนี้ขึ้นมาแล้วก็อาจจะบอกว่า “นี่แหละ แนวเราเลย”
Barna: คุณกลัวมั้ยว่าการทำโปรเจ็คเดี่ยวจะทำให้คนเข้าใจว่าวงกำลังจะแตก
Hayley: ฉันพยายามจะเคลียร์เรื่องนี้ แต่ว่าหลายๆคนก็เข้าใจไปแล้วว่า Paramore วงแตกไปตั้งแต่ปี 2009 แล้วฉันจะทำอะไรได้ ฉันมีความสุขมากกับจุดที่วงเป็นตอนนี้ มันมีความมั่นใจในวงเกิดขึ้นทุกวันนี้มากกว่าเมื่อก่อนที่เราเคยพยายามจะบอกคนอื่นว่า เราโอเค
Barna: สำหรับการปล่อยอัลบั้ม คุณปล่อยอัลบั้มแบบปกติมากๆ ในช่วงที่ทุกวันนี้หลายๆศิลปินมักจะปล่อยแบบเซอร์ไพรส์ ทำไมถึงปล่อยออกมาแบบเป็นระลอก
Hayley: จะบอกให้ว่า ฉันไม่คิดว่ามันมีกฎอะไรตายตัวแน่นอน และถ้ามันมีก็นะ มันไม่ควรจะมี ไม่ว่าคุณจะอยู่ในวงการฮิปฮอป และคุณพยายามจะปล่อยมิกซ์เทป หรือคุณอยู่วงการคันทรี่และปล่อยอัลบั้มแบบปกติ ฉันพึ่งได้ข่าวมาว่า Kenny Chesney ขายอัลบั้มไปกว่าสองแสนอัลบั้มเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ฉันแบบ “อะไรวะ” มันไม่กฎอะไรทั้งนั้นแหละ มันมีแต่ดนตรี ฉันก็เคยคิดนะว่า ถึงจุดๆนึงฉันก็คงแค่เขียนสองสามเพลง เปลี่ยนชื่อนักร้องแล้วเอามันลง Spotify ฉันก็แค่ไม่สนใจอะไรแบบนั้นอีกต่อไปแล้ว ฉันเคยสนใจเรื่องชาร์ต ถึงแม้ว่ามันจะเจ๋งขนาดไหนที่คุณไต่ชาร์ตได้ แต่ของพวกนั้นถือเป็นโบนัส และฉันโชคดีมากที่มีสิ่งเหล่านั้นเกิดขึ้น Paramore ประสบความสำเร็จมากมาย เรามีหลายปีเหมือนกันที่เราอาจจะไม่ได้ดังเปรี้ยงปร้าง ฉันไม่ได้ต้องการความสำเร็จอะไรแบบนั้นอีกแล้ว
Barna: ตอนที่คุณเข้าสู่วงการดนตรี ตอนนั้นยอดขายเป็นเรื่องสำคัญ บ่งบอกถึงความสำเร็จ แต่ว่าความกดดันที่จะขายอัลบั้มในสัปดาห์แรกไม่มีอีกแล้ว คุณโล่งใจมั้ย
Hayley: ดีมากเลยนะที่ Paramore เติบโตในช่วงที่วงการดนตรีกำลังเปลี่ยนผ่าน แต่เราก็ได้มีความสนุกในแบบที่มันเคยเป็น เพราะว่าสิ่งเหล่านั้นคือสิ่งที่เราเจอมาตลอด ศิลปินหลายๆคนที่เราชื่นชอบไม่ได้ประสบความสำเร็จ ไม่ได้เป็นเมนสตรีม คุุณลองมองดู Radiohead แล้วคุณอาจจะบอกว่าเค้ามีเพลงดังๆเยอะแยะ แต่มันไม่ใช่สิ่งที่คุณฟังในคลื่นวิทยุ ฉันอยู่มานานพอที่จะรู้ว่าตัวเลขพวกนั้นไม่ได้ทำให้ชีวิตดีขึ้น และนั้นเป็นข้อยืนยันว่าฉันต้องรู้ว่ามันไม่ใช่ความสำเร็จ
ความสำเร็จของฉันคือการนอนลงในตอนกลางคืนและคิดว่า “โอ้ พระเจ้า ฉันเขียนเพลงที่ดีมากๆวันนี้ และพรุ่งนี้ ฉันไม่อยากตายอีกแล้ว ฉันแค่อยากนอน ตื่นมาวันพรุ่งนี้ และกินข้าวเช้า”
Barna: ผมอ่านรีวิวเมื่อวันก่อน เขาบอกว่าอัลบั้มนี้เหมือนได้พบกับ Hayley Williams ครั้งแรก คุณรู้สึกว่าคุณแนะนำตัวเองเป็นครั้งแรกมั้ย
Hayley: ถามดี ฉันรูู้สึกว่า After Laughter คือโมเมนต์ที่ฉันเริ่มปล่อยตัวเองให้เป็นที่รู้จัก ฉันคิดว่าพวกหนุ่มๆก็คงรู้สึกแบบนั้น มันเป็นครั้งแรกที่วงของเราเริ่มทำอะไรที่อยากทำ และในฐานะที่อยู่ในสายตาสารธารณะมานาน ก่อนที่เราจะเขียน After Laughter เรากัดฟันกันนานมาก เราเหนื่อยกับปัญหาดราม่าของ Paramore และปัญหาที่ว่าเกือบค่อนโลกรู้จักเราแค่วงใส่กางเกงยีนส์สกินนี่ กับเพลง Misery Business เพราะฉะนั้น After Laugther ฉันเลยบอกเลยว่า “โอเค เรากำลังอยู่ในความสัมพันธ์ ให้ฉันได้บอกพวกคุณละกัน ว่าฉันแย่ขนาดไหน”
Barnar: คุณเริ่มอาชีพของคุณด้วยการเขียนเพลงกับผู้คนในแนชวิลล์ เราพึ่งโพสต์บทสัมภาษณ์กับ Lucinda Williams เมื่อไม่นานมานี้ เธอบอกว่าการเขียนเพลงในแนชวิลล์มันเหลวไหลสิ้นดี เพราะว่าผู้คนไปที่นั่นเพื่อเอาชื่อตัวเองไปใส่ในเพลง มากกว่าการอยากจะเขียนเพลงจริงๆ คุณคิดว่าการเขียนร่วมกันเป็นความร่วมมือที่ดี หรือว่าการเขียนเองในห้องดีกว่า
Hayley: การได้พบปะผู้คนแบบล้นๆ แล้วก็การเขียนเพลงร่วมกันแบบล้นๆ ทำให้มันดูล้นไปหมด การไปพบผู้คนที่ทำเพื่อเลี้ยงชีพและหวังให้เค้าให้เค้ามอบเพลงทางอารมณ์และส่วนตัวให้ มันเกินตัวฉันไปเยอะ เมืองนี้เป็นเมืองที่เกิดขึ้นโดยนักเขียนเพลง และคนที่เก่งทางธุรกิจเช่นกัน ฉันยอมอยู่ตัวคนเดียว หรือไม่ก็กับผู้คนที่มีความต้องการเหมือนกัน โดยไม่ต้องรู้สึกว่าเราต้องนัดหมาย ฉันไม่รู้ว่าการทำล้นๆแบบนั้น ทำยังไง
Barna: คุณเคยอยู่ที่ Los Angeles แต่ตอนนี้กลับมาบ้านแล้ว ทำไมถึงกลับมาที่ Nashville
Hayley: ตอนนั้นฉันคิดว่าฉันกำลังจะแต่งงาน และคิดว่าบางที ก็อาจจะใช้ชีวิตแบบธรรมดาง่ายๆ ใกล้ๆกับครอบครัว ฉันพยายามแล้วที่ L.A. อยู่พักนึงเพื่อที่จะได้อยู่กับอดีตสามี และฉันเหงามาก ฉันรีก California และฉันมีเพื่อนที่ดีมากๆตอนนี้ แต่นั่นเป็นเพราะเพื่อนๆหลายคนของฉันที่อยู่ที่ L.A. ก็ย้ายมาจาก Nashville
ฉันพยายามจะทำให้มันเวิร์ค แต่มันโคตรไม่ดีต่อสุขภาพฉันเลย ฉันกลับมาเมื่อปี 2015 เพื่อแต่งงาน และทำเรื่องส่วนตัวที่นี่ และเอาจริงๆ ถ้าความสัมพันธ์ครั้งนั้นมันใช่ และมันดีต่อสุขภาพของฉัน มันก็คงไม่เป็นปัญหาอะไรหรอก แต่จริงๆแล้วมันโคตรวุ่นวาย ในปีแรกที่กลับมา ฉันคิดว่า “โอ ตายแล้ว Nashville ไม่เหมือนเดิมเลย มันไม่ใช่เมืองเล็กๆแล้ว มันเป็นเมืองใหญ่ที่มีการก่อสร้างเต็มไปหมด ชีวิตของฉันก็หักเป็นเสี่ยง แล้วก็ไม่รู้ว่าทำไมฉันตัดสินใจอะไรแบบนั้นกับชีวิต” แต่ฉันก็ดีใจนะ ที่ฉันหลุดออกมา และไม่วิ่งกลับไป California หลังจากหย่า เพราะฉันมีชุมชนจริงๆที่นี่
Barna: รู้สึกยังไง ตอนที่ชีวิตประสบความสำเร็จแต่ตัวเองมีแต่เรื่องแย่ๆในชีวิตส่วนตัว
Hayley: เหมือนคนโง่ ความจริงก็คือ กับอัลบั้มก่อนหน้า After Laughter ฉันพยายามอยากให้ทุกคนรู้สีกดี เมื่อฟังเพลงของ Paramore ฉันอยากแสดงโชว์กับเพื่อนๆของฉัน และเป็นที่ที่ปลอดภัยสำหรับทุกคน มันทำให้ฉันรู้สึกแตกต่าง จนวันนึง มันไม่ใช่อีกต่อไป และฉันก็รู้สึกทันทีว่า “ชิบหาย ฉันเฟค” การได้เปิดเผยความรู้สึกตัวเองมันโคตรดีต่อความสัมพันธ์ สำหรับเราทุกคนที่ซื่อสัตย์ต่อตัวเอง ซื่อสัตย์ต่อความรู้สึกที่รู้ว่าตัวเองไม่ได้อยู่ในจุดที่ปลอดภัย
และด้วยโอกาสพวกนี้ทั้งหมด มันช่วยได้เยอะมาก ฉันไม่ได้ทำอัลบั้มนี้แบบเมื่อก่อนที่ฉันเคยทำ ฉันจริงกับความรู้สึก ไม่ว่าความรู้สึกมันจะแย่ หรือว่าผ่านเรื่องราวอะไรก็แล้วแต่ ฉันปกป้องสิ่งสำคัญที่ฉันควรปกป้อง แต่ฉันพยาพยามไม่เฟคใส่ผู้คนอีกแล้ว เพราะมันทำให้ฉันรู้สึกแย่
Barna: ตอนที่คุณเริ่มทำอัลบั้มนี้ คุณรู้เทรนด์ขนาดไหนในจุดของเพลงป๊อป และคุณพยายามมั้ยที่จะใช้เทรนด์ในการทำอัลบั้ม
Hayley: สำหรับ Paramore และ Petals for Armor ตอนเราเขียน เราไม่แคร์อะไรทั้งนั้น จริงๆแล้วเราได้แรงบันดาลใจจากอะไรเก่าๆมาก บางอย่างที่ป๊อปมากๆ ก็ได้มาจาก Bjork อัลบั้มแรกๆ ฉันไม่ได้แค่สนใจแต่เพลงป๊อปใหม่ ฉันรู้ว่าซาวน์มันดีนะ แต่มันแค่ไม่ได้อยู่ในเรดาห์ของฉันแค่นั้นเอง
Barna: ท้ายสุดแล้ว อยากจะถาม ช่วงกักตัวนี่ คุณทำอะไรทาน
Hayley: ฉันมาถึงจุดๆที่ ทุกๆเย็นเป็นรายการอาหาร Chopped ซึ่งฉันก็จะเปิดตู้กับข้าว แล้วก็ “โอเค ไอนี่อะไรเนี่ย” แล้วหม้อของฉันก็มีแต่รอยคราบแห้งๆ ฉันชอบของอบมาก ก็จะอบมันทุกอย่างที่มาจากตู้เย็น เพราะงั้นฉันก็จะอบหัวหอม ฉันไม่สนใจอะไรทั้งนั้น ฉันจะกินหอมทังหัวด้วยส้อม ตราบไดที่มีอาหารบนโต๊ะ ฉันไม่แคร์
ขอบคุณข้อมูล: Interview Magazine
รู้หรือยัง Paramore Thailand มีกรุ๊ปไว้พูดคุยแลกเปลี่ยนข้อมูลบน Facebook กดไลค์เพจเราแล้วเข้าร่วม คลิกที่นี่เลย
Instragram: paramoreBKK
Facebook: paramoreBKK
twitter: paramoreBKK
- Paramore ขึ้นโชว์งาน iHeartRadio Music Festival 2024 - September 21, 2024
- Paramore เผยกำลังทำอัลบั้มใหม่ต่อจาก This Is Why - September 15, 2024
- เฮย์ลีย์กับ The Only Exception ที่ไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป - September 14, 2024