ลองฟัง Operator อัลบั้มเดี่ยวแรกของ Zac Farro

หลังจากออกอัลบั้มในชื่อวง Halfnoise มาแล้วถึงห้าอัลบั้ม Zac Farro มือกลองจากวง Paramore ก็ได้ฤกษ์ปล่อยอัลบั้มเต็มชุดแรกภายใต้ชื่อของเขาเอง โดยไม่ใช่เพียงแค่การเปลี่ยนทิศทางทางดนตรี (เพราะเขาเริ่มซึมซับกลิ่นอายของแนว alt-country จากแนชวิลล์มากขึ้นเรื่อย ๆ) แต่เป็นการเปิดเผยตัวตนอย่างลึกซึ้งและสะท้อนความรู้สึกภายในอย่างชัดเจน เพลงในอัลบั้ม Operator ล้วนเกี่ยวข้องกับ การสื่อสาร ไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง โดยเฉพาะช่วงเวลาที่ไม่สามารถสื่อสารต่อกัน ระหว่างคนในครอบครัวหรือคนรัก ซึ่งมักนำไปสู่การต่อสู้กับความคิดภายในใจของเราเอง

Operator คืออัลบั้มที่เกี่ยวกับการสะท้อนตนเอง—เป็นบทสนทนาภายในที่เรามีต่อใจของตัวเอง
Zac Farro

“มันคือกระบวนการทำความเข้าใจชีวิต และเรื่องราวเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่เราต้องเจอในทุกวัน บางช่วงอาจแค่โทรหาแล้วไม่มีใครรับ แต่บางครั้งก็หนักหนาอย่างการสูญเสียคนในครอบครัว หรือเห็นคนที่เรารักล้มป่วย ยิ่งโตขึ้น ผมยิ่งรู้ว่าชีวิตมีค่ามากแค่ไหน อัลบั้มนี้คือความพยายามของผม ที่จะระบายความคิดและความรู้สึกออกมาในแบบเรียลไทม์”

แม้จะฟังดูเศร้าและหม่นหมอง แต่ในความเป็นจริง Farro กลับใส่จังหวะที่มีชีวิตชีวาเข้าไปใน 9 เพลงของอัลบั้ม โดยได้แรงบันดาลใจจากเพลงแนว soft-rock ยุค 70s ซึ่งแทรกกลิ่นอายของ folk, funk, R&B, และ psychedelia ไว้อย่างพองาม ทำให้เกิดความกลมกลืนในซาวด์แม้เนื้อเพลงจะพูดถึงเรื่องการพลาดการเชื่อมต่อหรือความสับสนทางอารมณ์กับคนที่เรารัก

อัลบั้ม Operator เปิดให้ฟังอย่างเป็นทางการแล้ววันนี้ ผ่านค่าย Congrats Records ของ Farro เอง
คุณสามารถฟังสตรีมหรืออ่านบทวิเคราะห์เพลงแต่ละแทร็กได้ด้านล่าง — และหากสนใจก็สามารถซื้ออัลบั้มได้เช่นกันที่นี่

1. “Operator“

เพลงนี้พูดถึงความคิดถึงใครบางคน—เหมือนต่างคนต่างอยู่คนละช่วงเวลาชีวิต เปรียบได้กับการเล่น “โทรศัพท์สวนทาง” ที่ติดต่อกันไม่ติด เพลงนี้เปิดตัวธีมหลักของอัลบั้ม คือความไม่มั่นใจในใจตัวเองเมื่อไม่สามารถติดต่อใครบางคนได้ และต้องอยู่กับความคิดของตัวเองเพียงลำพัง

2. “Second Chance“

นี่คือเพลงแรกที่ผมแต่งขึ้นสำหรับอัลบั้มนี้ มันเป็นจุดเริ่มต้นที่กำหนดทิศทางของทั้งอัลบั้ม เพลงนี้เกี่ยวกับการย้อนคิดซ้ำแล้วซ้ำอีกกับช่วงเวลาหนึ่ง—ช่วงเวลาที่คุณหวังว่าจะย้อนกลับไปแก้ไขได้ ความสัมพันธ์คือกระจกเงาที่ใหญ่ที่สุดที่เราต้องเผชิญหน้า

3. “1″

เพลงนี้ว่าด้วยเรื่องของ ความเป็นตัวของตัวเอง ผมแต่งโดยคิดถึงคู่ชีวิตของผม—คนที่มีเอกลักษณ์ที่สุดเท่าที่ผมเคยรู้จัก แต่เนื้อหาของเพลงนี้สามารถสื่อถึงทุกความสัมพันธ์ มันคือการเตือนใจว่า การเป็นตัวเองอย่างแท้จริง คือสิ่งที่มีค่ามากที่สุดที่เราจะมอบให้ใครได้

4. “Simple Actions”

เพลงนี้สะท้อนบทสนทนาภายในใจอย่างชัดเจน มันแตะไปถึงความห่างเหินทางอารมณ์แม้จะอยู่ในความสัมพันธ์ใกล้ชิด โดยเฉพาะภายในครอบครัว บางครั้งคนที่อยู่ใกล้เราที่สุด กลับรู้สึกเหมือนคนแปลกหน้า คุณแค่เพียงจะต้องกล้าถามว่า “เกิดอะไรขึ้น…คุณไม่มีความสุขหรือเปล่า? หรือคุณแค่รอให้ฉันเข้าไปหา?” ก็อาจช่วยเยียวยาได้

5. “My My”

อาจไม่ใช่เพลงที่เปราะบางที่สุดในอัลบั้ม แต่ก็ใกล้เคียง วันหนึ่งผมเดินเล่นกับหมาแล้วอยู่ๆ เนื้อเพลงนี้ก็ผุดขึ้นมาแบบฉับพลัน ผมหยุดเดินแล้วจดมันไว้ บางครั้งแรงบันดาลใจก็มาเร็วแบบนั้น แต่บางครั้งก็ต้องใช้เวลาเป็นสัปดาห์หรือเป็นเดือน เพลงนี้พูดถึงการเฝ้าดูคนที่คุณรัก ค่อยๆ บอกลาใครบางคนที่เขารักมาก การเห็นเหตุการณ์แบบนั้นเปลี่ยนคุณได้ การอยากช่วยแต่ไม่สามารถทำอะไรได้ เป็นความรู้สึกที่หนักหนาที่สุดแบบหนึ่งของมนุษย์เลยก็ว่าได้

6. “Gold Days”

วันหนึ่งผมขับรถผ่านบ้านเก่าของตัวเอง ผมจอดรถข้างทางและนั่งนิ่งอยู่ตรงนั้น คิดอะไรหลายอย่าง ตอนเรายังเด็ก ชีวิตเหมือนจะมีแค่สิ่งที่อยู่ตรงหน้า—ไม่มีที่ไหนต้องไป ไม่มีนาฬิกานับถอยหลัง ผมคิดถึงความรู้สึกนั้น มันช่างหอมหวานเหลือเกิน ทุกวันนี้ ถ้าไม่ตั้งใจอยู่กับปัจจุบัน เวลาเหมือนจะหลุดลอยไป เพลงนี้คืออีกช่วงเวลาหนึ่งของการไตร่ตรองชีวิต

7. “All I Really Want Now”

เพลงนี้เรียบง่ายมาก: มันว่าด้วยการตกหลุมรักใครบางคนลึกขึ้นเรื่อย ๆ ตามกาลเวลา เป็นการเลือกที่จะอยู่ด้วยกัน ทั้งในช่วงเวลาที่ดีและเวลาที่ลำบาก

8. “Sunday Driving”

เพลงนี้พิเศษมาก ไม่บ่อยนักที่ผมจะทำเพลงที่ทั้งเนื้อหาและเสียงเพลงไปในทิศทางเดียวกันแบบนี้ เพลงนี้ให้ความรู้สึกเหมือนนั่งรถขับเล่น—ไม่มีจุดหมาย ไม่มีความเร่งรีบ ไร้ทิศทางแต่เต็มไปด้วยจุดประสงค์อันเงียบงันของการ อยู่ด้วยกันเฉย ๆ

9. “I Need You”

นี่เป็นเพลงที่ยากที่สุดทางอารมณ์ในการทำ ผมแต่งมันจากมุมมองของคู่ชีวิตของผม—ในแนวเดียวกับเพลง “My My” เมื่อคนที่คุณรักกำลังเจ็บปวดอย่างลึกซึ้ง มันยากมากที่จะรู้ว่าควรช่วยยังไง ผมมักอยากแก้ปัญหา แต่บางครั้ง สิ่งที่ดีที่สุดที่คุณจะทำได้ ก็คือ แค่รับฟังและอยู่ตรงนั้น ผมลำบากมากกับการร้องเพลงนี้—เกือบร้องไม่ได้เลย แต่ผมคิดว่านั่นคือสัญญาณที่ดี เพราะมันคือ ของจริง

บทความต้นฉบับ Flood Magazine

Author
Recent Posts

paramorebkk

แอดมินบ้าน Paramore Thailand
เริ่มก่อตั้งครอบครัว parafamily ในไทยตั้งแต่เรียนมัธยม
ปัจจุบันทำงานแล้ว ใช้จ่ายเงินไปกับการซื้อแผ่นเสียงลิมิเต็ด ซีดีเพลง เสื้อวง
ปัจจุบันฟังเพลงหลากหลายมากขึ้น ความฝันของแอดมินคืออยากให้ Paramore กลับมาทัวร์ในไทยอีกครั้ง