Interview Lyrics Music Video

Dead Horse: หมดเวลายืดเยื้อ ความสัมพันธ์อันคาราคาซัง ได้เวลามูฟออน

ปล่อยมาแล้วสำหรับเอ็มวีเพลง Dead Horse จาก Petals For Armor ออกมาวันเดียวกันกับที่ปล่อยอัลบั้มเต็ม เรียกว่าจัดหนัก ถึงจะเป็นสถานการณ์โควิด แต่ก็ไม่ทำให้การโปรโมตอัลบั้มของเฮย์ลีย์ ลำบากกลงแม้แต่น้อย โพสต์ อิสตาแกรมมากมาย วิดิโอในทวิตเตอร์เอย โปรโมตสารพัด

วันนี้เราถือโอกาสมาเจาะเพลง Dead Horse ซึ่งถือเป็นเพลงปลดปล่อยความผูกมัดของความสัมพันธ์อันคาราคาซัง (ระหว่างแชด กิลเบิร์ต และเฮย์ลีย์)

ก่อนอื่น ถ้าใครยังไม่ได้ชมเอ็มวี สามารถกดดูได้ด้านล่าง

เอ็มวี Dead Horse กำกับโดย Zac Farro มือกลองวง Paramore

เพลง Dead Horse แต่งโดย Hayley Williams และ Daniel James
โปรดิวเซอร์โดย Taylor York
มิกซ์โดย Carlos de la Garza

อย่างที่เราทราบกันว่าความสัมพันธ์ล่าสุดกับคนรักเก่า(อดีตสามี)ของเฮย์ลีย์นั้น จบไม่สวย หลังจากความสัมพันธ์จบลง เฮย์ลีย์เองก็ตกอยู่ในภาวะซึมเศร้า และใช้วิธีการเขียนเพลงเพื่อบรรเทาอาการ จนเราได้ฟังอัลบั้ม After Laughter จนกระทั้งโปรเจ็กโซโล Petals For Armor

เพลง Dead Horse เป็นเพลงที่ถือว่าแต่งขึ้นเพื่อแสดงถึงความเป็นอิสระ
Dead Horse เป็นคำเปรียบเทียบจากประโยค “Beat a dead horse” ซึ่งหมายถึงการทำอะไรซักอย่างจนเลยขอบเขตของมัน ทำไปทั้งๆที่รู้ว่าไม่สำเร็จ เหมือนพยายามจะขี่ม้าไปต่อ แต่ม้าตายไปแล้ว จะไปไหนได้อย่างไร
เหมือนความสัมพันธ์ ทั้งๆที่มันควรจะจบไปตั้งนานแล้ว เหมือนการเสียเวลาทั้งๆที่รู้ว่าความสัมพันธ์นี้มันไปไม่รอด

เปิดเพลงมาเราจะได้ฟังโน้ตเสียงของเฮย์ลีย์บอกเล่าว่าเธอกำลังเครียดและใช้เวลาถึงสามวัน ก่อนที่จะได้เนื้อเพลงส่งไปมิกซ์ แต่… เธอกำลังหลุดพ้นจากมัน

“Alright, it took me three days to send you this, but
Uh, sorry, I was in a depression
But I’m trying to come out of it now”

เฮย์ลีย์โพสต์โน้ตเสียงนี้บนอินสตาแกรมบอกว่า เธอเองกำลังไปทำธุระสำหรับ Good Dye Young และแต่งมันระหว่างอยู่บนเครื่องกำลังกลับ โน้ตเสียงนี้อัดในห้องน้ำ เป็นที่ๆเธอได้ใช้ปลดปล่อยความคิดที่ตามหลอกหลอนเธอมานาน
ท่อนเริ่มก็บอกเป็นนัย แล้วว่าเพลงนี้ เป็นเพลง coming of age คือเพลงที่คนร้องจะต้องเรียนรู้ และเติบโตจากมัน (เทียบยังกับอนิเมะของ Studio Ghibli)

https://www.instagram.com/p/B_RNZ6gpM9B/?utm_source=ig_web_copy_link

“Every morning I wake up
From a dream of you, holding me
Underwater (Is that a dream or a memory?)
Held my breath for a decade

เฮย์ลีย์เล่าว่าเธอมักจะฝันว่าเธอจมน้ำกับคนรักเก่า
อย่างที่เรารู้กันว่า น้ำ โดนจับมาแต่งเป็นเนื้อเพลงอยู่ตั้งแต่เพลง Pool จากอัลบั้ม After Laughter ซึ่งเพลงนั้นก็เกี่ยวกับความสัมพันธ์เช่นกัน
เธอยอมรับว่าความสัมพันธ์ระหว่างกับแชด คือเธอตกอยู่ในสถานะชู้สาว และเธอรู้สึกละอาย
เธอเปรยว่าความสัมพันธ์แบบนี้ก็ทำให้เธอหายใจไม่ออกมาเป็นสิบๆปี

ในบทสัมภาษณ์กับ Vulture เธอกล่าวว่า:
“ฝันของฉันมันแย่มาก มีหลายครั้งที่ฉันฝันว่าฉันจมน้ำ ฉันเขียนเพลงเกี่ยวกับความสัมพันธ์โดยใช้น้ำเป็นตัวเปรียบเทียบบ่อยครั้ง
ฝันที่เกิดขึ้นบ่อยครั้งตอนที่ฉันยังเป็นเด็กคือเกี่ยวกับน้ำทั้งนั้น ฉันเริ่มกลับมามีความฝันแบบนั้นอีกครั้ง มันทำให้ฉันมีอาการแพนิค ตกใจ บางทีถึงกับต้องเข้าโรงพยาบาล เพราะว่าเป็นลม”

ผมสีนีออนฟ้า จากช่วง Paramore Self titled

Dyed my hair blue to match my lips
Cool of me to try (Pretty cool I’m still alive)”

พร้อมกับยังเล่นกับสีผมสำน้ำเงิน ถ้าทุกคนจำได้ เธอเคยทำสีผมสีน้ำเงินตอนช่วง Paramore Self-Titled อัลบั้ม พร้อมยังบอกว่า รอดช่วงนั้นมาได้ ก็เก่งแล้ว
ผมสีน้ำเงินก็เปรียบเทียบเหมือนกับว่าช่วงที่อยู่ในความสัมพันธ์ ร่างกายเธอก็เหมือนโดนทำร้าย จนปาก มือ ม่วงน้ำเงิน เลยต้องไปทำสีผมตามให้แมตช์กับสีผิว

“I beat it like a dead horse, I beat it like a drum
Oh, I stayed with you too long”

อย่างที่บอกว่า “Beat a dead horse” คือความดันทุรังสุดโต่ง
เธอยอมรับว่าความสัมพันธ์มันยาวนานกว่าที่ควรจะเป็น นอกจากนั้นยังเล่นกับการตีกลองซึ่งเหมาะกับอาชีพนักร้องนักแต่งเพลง

“Skipping like a record, but I sang along
To a silly little song
I said I beat it like a dead horse, I beat it like a drum”

ความสัมพันธ์ของเธอมันก็เหมือนแผ่นเสียงตกร่อง แต่ก็ยังดันทุรังจะไปต่อ ร้องเพลงไร้สาระเหล่านั้น ซึ่งเพลงที่ว่า หลายๆคนเข้าใจว่าเธอเชื่อมโยงไปถึงเพลง Vicous Love ของแชด ซึ่งเธอก็ไปร่วมร้องด้วย
นอกจากนั้นถ้าเรากลับไปมองเพลง Still Into You เราจะพบกับท่อน
“And to your favorite song,
we sang along to the start of forever”

เวลาเหล่านั้น ช่างไร้สาระสำหรับเฮย์ลีย์

“Sometimes it’s good to be the bigger person
But I’m so small I can’t compare
And after all, it’s only fair, yeah
I got what I deserved, I was the other woman first
Other others on the line
But I kept trying to make it work”

ท่อนเพลงนี้เชื่อมโยงกับความสัมพันธ์ของเธอกับแชด
ก่อนที่จะมาแต่งงานกับเฮย์ลีย์ แชดแต่งงานกับ Sherri DuPree-Bemis และพอหย่ากันก็มาแต่งงานกับเฮย์ลีย์ หลังจากนั้นก็แชดก็มีสาวคนใหม่อีกที
เธอกล่าวว่ามันก็สมควรแล้ว เพราะเธอเองก็เป็นมือที่สามของรักครั้งนี้ แล้วก็มีสาวๆคนอื่นที่รอจะเป็นมือที่สามเช่นกัน
ในบทสัมภาษณ์กับ Vulture เธอกล่าวว่า:
“มันเหมือนกับการอยู่ภายใต้ถุงพลาสติกมาเป็นปีๆ ในที่สุดก็เจอรูอากาศหายใจ
ฉันละอายใจมาก ที่ตัวเองก็รู้สึกเหมือนว่าเป็นมือที่สาม และยังโดนหลอก
เพลงนี้มีความหมายกับฉันมาก มันไม่ใช่ว่าฉันแค่นั่งและมองความสัมพันธ์ของคนอื่น แต่มันคือฉันเองที่บอกตัวเองว่า ทำสิ ทำให้ฉันเจ็บ
ฉันทนอยู่มานาน หลายครา ฉันไม่รู้จะทำยังไงให้ความละอายนี้หมดไป การแต่งเพลงแบบนี้ก็อาจจะพอช่วยความรู้สึกได้”


ท่อนนี้ยังบ่งบอกว่าเฮย์ลีย์พยายามให้ความสัมพันธ์มันเดินหน้าต่อ เหมือนอย่างเพลง Pool จากอัลบั้ม After Laughter

Lijadu Sisters

“Ya-ya-ya-ya, ya-ya-ya-ya
Ya-ya-ya-ya-ya-ya-ya
Ya-ya-ya, ya-ya-ya-ya
Ya-ya-ya-ya-ya-ya-ya”

ท่อนนี้ เหมือนจะไม่มีอะไร แต่จริงๆแล้วมี เธอกล่าวว่าเธอได้แรงบันดาลใจจาก Lijadu Sisters วงดูโอ้จากไนจีเรียช่วงปี 60s ถึง 80s เธอกล่าวว่าช่วงทัวร์ After Laughter เธอฟังเพลงแอฟรืกันเยอะและได้แรงบันดาลใจมา

เกร็ดเล็กเกร็ดน้อย ดีเทลเล็กๆในเอ็มวี
ในเอ็มวีมีทั้งหลายซีนที่เล่นกับการแต่งงาน ไม่ว่าจะเจ้าสาวชุดดำโดนอุ้มโดยเจ้าบ่าวและกลับหัว ส่วนตัวแล้วผมชอบเฮย์ลีย์เต้นในเอ็มวีนี้มาก
Zac กำกับเอ็มวีออกมาได้ดี และเหมือนเดิม (กับ Fake Happy) ที่ใช้กล้องอนาล็อค ภาพออกมาสวยทีเดียว

ที่เด็ดคือ สำหรับรองเท้า Doc Martens ที่สาดน้ำในเอ็มวี
เราเข้าใจว่า มันคือรองเท้าที่ใช้ในงานแต่ง เพราะถ้าใครจำได้ดี เฮย์ลีย์ ใส่รองเท้า Doc Martens แต่งงานกับแชด กิลเบิร์ต

ซ้าย: ภาพจากงานแต่งของเฮย์ลีย์และแชด
ขวา: จากเอ็มวี Dead Horse

พอได้เห็นแบบนี้แล้ว เพลงนี้สื่อถึงการเป็นอิสระ การที่ตัวเองได้ in control อีกครั้ง
สำหรับเฮย์ลีย์เอง นี่ก็ถือเป็นเพลงที่สร้างพลังให้กับเธอ

และทุกคนได้ฟังแล้ว รู้สึกยังไงบ้างครับ?

paramorebkk

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *

This site uses Akismet to reduce spam. Learn how your comment data is processed.