

บทความต้นฉบับ bandteesmcgee.substack.com
เขียนเมื่อวันที่ 21 พฤศจิกายน 2023 ที่ บริสเบน ออสเตรเลีย
เมื่อเราค่อยๆ เดินทางใกล้ถึงจุดจบ (และฉันหมายถึง ค่อยๆ — อย่างช้าๆ และเจ็บปวด) ฉันรู้สึกว่าจำเป็นต้องถอดชุดคลุมเหล่านี้ ทั้งหมดออกจากตัวเอง ปรากฏว่า การทำภารกิจที่ใช้เวลากว่า 20 ปีให้สำเร็จตามที่ตัวฉันในวัย 15 ปี (อะแฮ่ม) ได้ตั้งเป้าไว้ ไม่ได้ให้ฉันมีความรู้สึกโล่งใจอะไรเลย มันอื้ออึง… อึดอัด… คล้ายมีขนปกคลุม มันรู้สึกเหมือนกับว่าไม่มีทางจะแกะหรือสลัดออกได้ โดยไม่สูญเสียบางสิ่งที่เราไม่ได้ตั้งใจจะเสียไปด้วย
ความเศร้าที่เกิดขึ้นทำให้ฉันประหลาดใจ ตลอดหนึ่งปีเต็ม ฉันต้องเปิดพื้นที่ในใจให้กับความโกรธรูปแบบใหม่ๆ การระเบิดอารมณ์ และความเบื่อหน่ายรุนแรง ร่างกายฉันพังยับเยิน ไม่ได้ล้อเล่น — ฉันมี “รูก้นรูที่สอง” (ฉันตั้งชื่อมันว่าแบบนั้น) ทุกอย่างเริ่มจากการฉีดยาสเตียรอยด์ผิดพลาดในวันที่ร่างกายปวดระบมเป็นพิเศษ รอยแผลกลมเป๊ะตรงแก้มก้นซ้ายของฉันเป็นเพียงหนึ่งในบาดแผลที่มองเห็นได้ชัดเจนที่สุดจากชีวิตชาวร็อก คอของฉันรู้สึกเหมือนเกือบหัก ระบบภูมิคุ้มกันก็พังเละ… แล้วฉันจะเอาอะไรติดตัวออกมาจากหนองน้ำแห่งนี้ได้บ้าง?
รางวัลแกรมมี่สองสามรางวัล? ก็คงใช่ แต่ประเด็นก็คือ ไม่ว่าเราจะได้รางวัลหรือไม่ก็ตาม ใครก็ตามที่เข้าใจโลกใบนี้ในแบบเดียวกับ Fiona Apple ที่เคยพูดไว้ว่า “โลกนี้มันบัดซบ” ก็น่าจะรู้ดีว่า รางวัลไม่ได้ช่วยเติมเต็มคุณภาพชีวิตได้จริง ฉันพูดจากประสบการณ์ตรง ไม่ใช่จากความไม่รู้หรืออวดดี ปีเดียวกับที่เราได้รางวัลแกรมมี่ครั้งแรกก็คือปีที่ฉันควรจะได้แต่งงาน แทนที่จะเป็นเช่นนั้น ฉันกลับค้นพบว่าแฟนที่คบกันมา 9 ปีนอกใจฉันกับเพื่อนของฉันเอง — ตลอดเวลา ใช่ ฉันพอจะระแคะระคายอยู่แล้ว แต่ครั้งนี้ฉันมีหลักฐาน และฉันก็ทำในสิ่งที่ผู้หญิงแกร่งและเป็นอิสระพึงทำ: เลื่อนงานแต่งออกไปแค่ไม่กี่เดือน พร้อมกับความเจ็บปวด แล้วก็แต่งต่ออยู่ดี! ปีนั้นยังเป็นปีที่ฉันเสียเพื่อนสนิทคนหนึ่งไป… ไม่ใช่จากความตาย แต่เป็นเพราะความเย่อหยิ่งและปัญหาสุขภาพจิต ซึ่งหลังๆ ฉันพอจะจัดการได้บ้างแล้ว ฉันยังไม่ได้รับการวินิจฉัยว่าเป็น PTSD และซึมเศร้าจนกระทั่งสามปีให้หลัง รางวัลแกรมมี่แรกของเรากลายเป็นเพียงทวีตฉลองสองสามข้อความ ข่าวในวงการไม่กี่หัวข้อ และถ้วยรางวัลฝุ่นจับที่มีชื่อฉัน แต่จริงๆ แล้วฉันไม่ได้เป็นเจ้าของ (พวกเขาแค่ให้ยืม เพราะถ้าให้ยืม ศิลปินจะขายทิ้งไม่ได้)
ถ้าฉันจะพูดอย่างตรงไปตรงมา — ซึ่งพูดได้ เพราะนี่คือพื้นที่เล็กๆ ของฉัน และตอนนี้ยังไม่มีใครรู้จักที่นี่ด้วยซ้ำ: ฉันเหนื่อย เคืองใจ อยู่ไม่สุข ขอบคุณนิดๆ (สำหรับวันนี้) แต่กลัวมากกว่า สัญญาที่ฉันเซ็นตอนอายุ 15 ด้วยความหวังเต็มเปี่ยมว่าจะได้สนับสนุนความฝัน และ ความเป็นจริงของวงดนตรีฉันกับเพื่อนๆ กำลังจะหมดอายุลงโดยสมบูรณ์ ความกลัวไม่ใช่เพราะการไม่มีระบบสนับสนุนนั้น เราน่าจะตัดสัมพันธ์กันไปนานแล้วด้วยซ้ำ… แต่มันคือความหวาดหวั่นเมื่อเผชิญกับความเป็นไปได้ที่มากเกินไป มันคือความไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น บางคนรู้สึกตื่นเต้นกับโอกาสที่ไม่มีขีดจำกัด ฉันเคยคิดว่าฉันก็เป็นแบบนั้น แต่ตอนนี้ไม่แน่ใจแล้ว
แล้วถ้าฉันอยากลงจากสายพานนี้ตลอดไปล่ะ? ถ้าฉันไม่อยาก “ไปต่อ” อย่างที่หมอดูที่ฉันไปคุยด้วยบอกล่ะ? ถ้าฉันอยากไปต่อ แต่ไม่อยากทรมานตัวเองล่ะ? มันจะเกิดขึ้นได้ไหม? แล้วทั้งหมดนี้มันสำคัญจริงๆ ไหม?
บางคนบอกว่าพวกเรากำลังอยู่ในจุดสูงสุดของอาชีพ มันตลกดีนะ ฉันกลับรู้สึกเหมือนเรายังนั่งอยู่โต๊ะของเด็กอยู่เลย หรืออาจเรียกว่า “การพัฒนาไม่สมวัย”? ฉันไม่ได้ รู้สึก ว่าประสบความสำเร็จมากขึ้นเลย ใช่ ฉันเห็นตัวเลขและสถิติ แต่ก็ต้องมองผ่านด้วยสายตาของคนที่มีปัญหากับตัวเลข ฉันไม่เคยสนใจเรื่องตัวเลข ไม่เคยเลย และไม่คิดว่าจะเคยด้วย นั่นอาจเป็นเหตุผลหนึ่งที่ค่ายเพลงไม่เคยมองว่าฉันเป็นนักธุรกิจที่ดี
แต่ที่แน่ๆ — ฉันพร้อมมากแล้วที่จะยกเลิกสัญญานี้ มันคือดีล 360 องศาแรกของวงการเพลง และตอนนี้มันก็หมุนกลับมาครบรอบแล้ว เราจะยุบบริษัท และล้างพรีเซ็ตทุกอย่างที่มาพร้อมกับมัน เราจะเริ่มต้นใหม่ด้วยเงื่อนไขของผู้ใหญ่ มันจะเป็นสิ่งที่ตัวฉันในวัย 15 — ที่แก่แดดแต่ไร้เดียงสามาก — ภูมิใจที่ได้ปูทางไว้ เธอเชื่อมั่นในช่วงเวลานี้ สำหรับตัวเองและเพื่อนๆ
ตลอดสองสามสัปดาห์สุดท้ายนี้ ในขณะที่ร่างกายฉันกำลังสึกหรอถึงที่สุด ฉันจะพยายามหาวิธีปลดปล่อยพลังงานเก่าๆ ออกไป ปล่อยให้ไอเสียจากความโกรธและความทึ่งที่สะสมมา ลอยออกจากตัวฉัน ฉันจะสามารถกลับมาเป็นของตัวเองได้อีกครั้งไหม? หลังจากผ่านไปนานแค่ไหนแล้ว?
มีคนคนหนึ่งที่เคยเปลี่ยนชีวิตฉันไปในทางที่ดีบอกไว้ว่า “คุณต้องตัดส่วนที่ตายแล้วออกไป เพื่อให้ชีวิตใหม่เติบโตได้” ฉันคิดว่าจะตัดผมหนาๆ เหล่านี้ออก (ในเชิงเปรียบเปรยนะ!) ใส่ถุงซิปล็อกกลับบ้าน แล้วโยนลงกองไฟ ให้มันกลายเป็นความหมายใหม่ของคำว่า “สาวผมเพลิง” ที่ผูกติดกับชื่อฉันตลอดมา เมื่อเรากล่าวอำลาและแฟนเพลงกลุ่มสุดท้ายเดินกลับบ้าน ฉันจะวิ่งถือกรรไกรในมือ ทั้งตื่นเต้นทั้งหวั่นใจ และเป็นอิสระในที่สุด ฉันพร้อมแล้วให้ชีวิตใหม่ได้เติบโต — และแทบไม่สนด้วยซ้ำว่ามันจะหน้าตาเป็นอย่างไร
- Deep Dive เพลง Ego Death at a Bachelorette Party - August 7, 2025
- Hayley LiveJournal – บันทึกของเฮย์ลีย์: ดีล 360 - August 1, 2025
- Hayley Williams ปล่อยเพลงโซโลทีเดียว 17 เพลงบนเว็บส่วนตัว! - July 29, 2025